ด่วน! ไฟไหม้โรงงาน จ บาดเจ็บพุ่งกว่า1580 คน (ตาย700คน)  

วันที่ 20 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น. คืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัทนอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 398 หมู่ 4 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ริมถนนสาย24 โชคชัย – เดชอุดม

ด่วน! ไฟไหม้โรงงาน จ บาดเจ็บพุ่งกว่า1580 คน (ตาย700คน)

รถดับเพลิงจากหลายพื้นที่กว่า 20 คันระดมไปให้การช่วยเหลือ แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากจุดที่เพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บยางพาราเพื่อเตรียมส่งออก รถดับเพลิงจึงทำได้แค่ ไม่ให้ลุกลามต่อไปยังคลังน้ำมันและอาคารอื่น

ผ่านไปกว่า 6 ชม.ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ภาพตอนเช้าวันนี้ กลุ่มควันไฟได้ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าลอยไปไกลกว่า 10 กม.ขณะไฟยังลุกไหม้ต่อยังไม่มีท่าทีที่จะยุติลงได้ ท่ามกลางรถดับเพลิงยังระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง

นายจำเริญ แหวนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า จากรายงานที่ได้รับจุดที่เพลิงไหม้ เป็นโกดังเก็บสินค้าเพื่อรอส่งจำหน่าย ซึ่งเป็นยางก้อนและยางแท่งติดไฟได้ดีทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ลำบาก

ส่วนควันไฟที่ลอยออกไปเท่าที่ทราบ ไม่ใช่ควันจากสารเคมีไม่เป็นอันตรายต่อคน ตอนนี้ได้กำชับให้ผู้นำชุมชนที่ควันลอยไปถึง ให้สวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ก่อน ส่วนค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ รวมถึงสาเหตุเป็นเพราะอะไรที่ยังต้องสอบสวนต่อ

สำหรับโรงงานแห่งนี้เคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2563 ครั้งนั้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าหลายเท่าตัว

5 ก.ค.64 – ร.ต.อ.สัณหวัช แก้วดวงศรี รอง สว.(สอบสว) สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 เลขที่ 87 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมรถดับเพลิงจาก อบต.บางพลีใหญ่และ เทศบาลใกล้เคียงกว่า 30 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานขนาดใหญ่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติก บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารโรงงานอย่างรุนแรง เปลวเพลิงแดงฉานและควันไฟดำทมึนพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชนและโรงงานที่อยู่โดยรอบข้างรัศมี 500 เมตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เศษซากวัสดุจากโรงงานปลิวกระจายไปทั่วบริเวณ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยส่วนมากบาดเจ็บจากแรงระเบิด และโดนกระจกบ้านเรือนตกใส่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีคนงานบางส่วนถูกแผ่นปูนอาคารถล่มลงมาทับ เบื้องต้นบาดเจ็บแล้ว 8 ราย เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาล

จากการการสอบถามชาวบ้าน เล่าว่า พนักงานของโรงงานแจ้งว่า ถังบรรจุสารเคมีขนาด 2,000 ตัน เกิดการระเบิดเสียงดังสนั่น จากนั้นเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้และชิ้นส่วนโลหะและวัสดุกระเด็นกระจายไปทั่วบริเวณรอบโรงงาน ส่วนความเสียหายและสาเหตุขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำดับเพลิงตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และลุกลามขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องอพยพออกจากจุดเกิดเหตุ

นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลีได้สั่งอพยพประชาชนในซอยกิ่งแก้ว 21 ที่อยู่ใกล้กับโรงงานออกจากพื้นที่เกิดเหตุอย่างน้อย 5 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้มีสารเคมีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยให้อพยพไปยัง อบต.บางพลีใหญ่

ขณะนี้ นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้รุดไปอำนวยการที่จุดเกิดเหตุแล้ว ทางผู้ว่าฯได้มีการประสานเฮลิคอปเตอร์จาก ปภ. KA-32-02 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 ลำบรรทุกสารเคมีโฟมดับเพลิงเที่ยวละ 3,000 ลิตร มาช่วยดับเพลิง ซึ่งคาดว่าต้องใช้ถึง 6 เที่ยวบิน ไม่ต่ำกว่า 66,000 ลิตร โดยได้รับการสนับสนุนโฟมจากบางจาก จำนวน 20,000 ลิตร ปตท. จำนวน 20,000 ลิตร กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก จำนวน 20,000 ลิตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2,000 ลิตร หน่วยทหารพัฒนา (นทพ.) กองทัพไทย จำนวน 4,000 ลิตร

ต่อมา เวลา 13.30 น. ขณะที่กลุ่มอาสาสมัครดับเพลิง จำนวน 4 คน กำลังฉีดน้ำดับเพลิง ปรากฏว่าสารเคมีรั่วและพุ่งออกมาตามเปลวเพลิง กลุ่มอาสาสมัครจึงได้วิ่งหนีออกมาแต่เสียหลักล้มลงอยู่ตรงระหว่างถังเคมีทั้ง 2 ถัง เป็นเหตุให้นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ หรือ พอส อายุ 18 ปี รหัส ธน 28-78 ถูกไฟคลอดทั้งตัวเสียชีวิต ส่วนอาสาสมัครอีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

สรุปความเสียหายเบื้องต้น โรงงานถูกเพลิงเผาวอด 100% บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 70 หลัง พาหนะยานยนต์จำนวน 15 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 29 ราย เสียชีวิตจำนวน 1 ราย

ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือ นายอำเภอบางพลีได้สั่งอพยพประชาชน รัศมี 5 กิโลเมตรออกนอกพื้นที่ และได้แจ้งให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย แจ้งข้อมูลความเสียหายเบื้องต้น ณ สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว ซึ่งศูนย์อพยพจัดขึ้น ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่(อาคารหลังเก่า) มีผู้อพยพจำนวน 60 ราย วัดสลุด จำนวน 120 ราย และสนามบินสุวรรณภูมิ 3.จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ ตึกมูลนิธิร่วมกตัญญู ถนนกิ่งแก้ว กม.12 (ระยะห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ จนถึงขณะนี้เวลา 20.30 น.กว่า 17 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีข่าวลือว่ามีสารเคมี 5 แสนลิตรในบ่อใต้ดินไม่เป็นความจริง โดยทาง ปภ. ระบุว่าไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าว และไม่ได้มีบ่อใต้ดิน เป็นการเก็บในถังบรรจุอยู่ภายในโรงงาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *